สอนวิธีการปิด Storage Sense ลบไฟล์ไม่จำเป็นโดยอัตโนมัติ ใน Windows 10

ใบบทความก่อนนี้เราเคยพูดถึงฟีเจอร์ Storage Sense ของ Windows 10  สอนวิธีการเพิ่มฮาดดิสอย่างง่าย โดยการตั้งลบไฟล์ที่ไม่จำเป็น เช่น ไฟล์ขยะในถังรีไซเคิล หรือไฟล์ชั่วคราวที่สร้างจากแอปใน Windows เป็นต้น ให้ลบทุกๆ 30 วัน แต่ก็ไม่ได้มีการปรับแต่งการตั้งแต่อะไรมากมาย ล่าสุด Windows 10 ได้มีการอัปเดตเพิ่มเติ่ม ประจำเดือนพฤษภาคม 2019

Storage Sense คือว่าเป็นคุณสมบัติที่มีประโยชน์กับเราอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าต้องการปิดฟีเจอร์นี้ไม่ให้ลบโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าเหตุผลอะไรก็ตาม เราก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน

วิธีปิด Storage Sense

เริ่มแรก ให้ไปที่ Settings > System > Storage หรือกดคียลัด Windows+I เพื่อเปิดหน้าต่างการตั้งค่าได้อย่างรวดเร็ว หากต้องการหยุด Storage Sense ไม่ให้ลบไฟล์โดยอัตโนมัติ ก็สามารถกดปิดสวิตช์ Storage Sense หากต้องการกำหนดค่า Storage Sense เพิ่มเติม ให้คลิก “Configure Storage Sense or run it now”

กล่อง “Run Storage Sense” ให้ควบคุมเวลาที่ Windows 10 เรียกใช้ Storage Sense โดยอัตโนมัติ โดยค่าเริ่มต้นที่เรียกใช้ “During low free disk space” เราสามารถเรียกใช้ทุกวัน ทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน

หากต้องการหยุด Storage Sense ไม่ให้ลบไฟล์โดยอัตโนมัติใน Recycle Bin ให้คลิกที่ช่อง “Delete files in my recycle bin if they have been over over” ภายใต้ ไฟล์ชั่วคราว และเลือก “Never” ตามค่าเริ่มต้น Storage Sense จะลบไฟล์ที่อยู่ในถังรีไซเคิลที่อยู่นานกว่า 30 วัน

กล่อง “Delete files in my Downloads folder if they have been there for over” จะช่วยให้ Storage Sense ลบไฟล์จากโฟลเดอร์ดาวน์โหลดของคุณโดยอัตโนมัติ

ที่มา : https://www.howtogeek.com