10 วิธีทำให้ Google Chrome เร็วขึ้นและลดการใช้ RAM

Google Chrome เป็นเบราว์เซอร์นิยมที่หลายคนเลือกใช้ แต่กระนั้นมันก็มีนิสัยชอบกิน RAM ในระบบมากและเวลาใช้งาน windows ทำให้ช้าและเกิดอาการค้างอีกด้วย มันน่าหงุดหงิดสุดๆ โชคดีที่ปัญหาเหล่านี้แก้ไขได้ง่าย ในบทความนี้จะแนะ 10 วิธีทำให้ Google Chrome เร็วขึ้นและลดการใช้ RAM กันค่ะ

1.อัปเดตเบราว์เซอร์ Google Chrome ให้เป็นปัจจุบัน

หากเราไม่ได้ปิด Google Chrome มาระยะหนึ่ง อาจเป็นเพราะมีแท็บจำนวนมากที่เปิดอยู่ บางทีอาจมีการอัปเดตรออยู่ สามารถบอกได้อย่างง่ายดายว่ามีการอัปเดตใน Chrome รุ่นที่ใหม่กว่าหรือไม่ เนื่องจาก “เมนูเบอร์เกอร์” จะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองแล้วเปลี่ยนเป็นสีแดง เพื่อเตือนให้เราทราบว่าเบราว์เซอร์ที่ใช้อยู่นั้นล้าสมัย

หากต้องการให้ Chrome ตรวจสอบการอัปเดต ให้พิมพ์ “chrome://help” ลงในแถบที่อยู่เว็บและปฏิบัติตามคำแนะนำ

2.ลบส่วนขยาย (extensions) ที่ไม่ต้องการออกบ้าง

พิมพ์ “chrome://extensions” ลงในแถบที่อยู่เว็บและทำการปิดใช้ส่วนขยายที่ไม่ต้องการ ยกเลิกการเลือกช่องนี้เพื่อปิดใช้งานส่วนขยายหรือคลิกที่ไอคอน “ถังขยะ” เพื่อลบ ในการ ปิดหรือลบส่วนขยาย (extensions) นี้ จะทำให้ใช้งานไม่ได้ดังนั้นต้องมั่นใช้แล้วคุณไม่ใช้งานมันแล้ว

3.กำจัดปลั๊กอินที่ไม่ต้องการ

พิมพ์ chrome://plugins ลงในแถบที่อยู่และปิดการใช้งานปลั๊กอินที่ไม่ต้องการ เพียงคลิกที่ลิงค์เพื่อปิดการใช้งาน

4. ควบคุมแท็บด้วยส่วนขยายที่กำหนดเอง

จำนวนแท็บที่เปิดในแต่ละครั้ง มีผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพของ Chrome ตลอดจนปริมาณ RAM ที่แอปพลิเคชันใช้อยู่ ดังนั้นเราสามารถปรับแต่งแท็บจำนวนมากและควบคุมการใช้หน่วยความจำด้วยส่วนขยายบางส่วน

นี่คือบางส่วนให้เลือกปรับได้:

  • Tab Wrangler
  • One Tab
  • The Great Suspender

สิ่งที่คุณทำได้อีกอย่างคือตัดหน้าให้เหลือแค่ข้อความโดยใช้ส่วนขยาย เช่น Text Mode หรือ เป็นแบบมินิมอล

5.ติดตั้งส่วนขยายโปรแกรมประหยัดอินเทอร์เน็ต

หากปัญหาของคุณกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตช้า วิธีหนึ่งที่จะช่วยปรับปรุงแบนด์วิดท์คือการติดตั้งส่วนขยาย Google Data Saver ส่วนขยายนี้ใช้เซิร์ฟเวอร์ของ Google เพื่อบีบอัดและเพิ่มประสิทธิภาพหน้าเว็บก่อนที่จะส่งไปยังเบราว์เซอร์

6.ปิดเบราว์เซอร์ของคุณซะ!

ไม่จำเป็นเปิดเบราว์เซอร์ใหเทำงานตลอดเวลา! โดยปกติอาจะทำไม่ได้เพราะเราเปิดหน้าเว็บที่ใช้งานค้างอยู่ แต่จริงๆใน Google Chrome สามารถปรับแต่งให้เปิดใหม่ตรงกับตำแหน่งที่เราเคยเปิดอยู่ได้

พิมพ์ chrome://settings จะเห็นสามตัวเลือก:

  • เปิดหน้าแท็บใหม่
  • ทำต่อจากที่ค้างไว้
  • เปิดหน้าเฉพาะหรือชุดของหน้า
  • หากคุณต้องการให้ Google Chrome เริ่มทำงานจากจุดที่คุณทิ้งไว้ ให้เลือก ดำเนินการต่อจากจุดที่คุณค้างไว้ หรือหากคุณต้องการเริ่มต้นระบบจากชุดของหน้าที่กำหนดเอง ให้เลือก เปิดหน้าเฉพาะหรือชุดของหน้า แล้วเลือกหน้าเหล่านั้น

เคล็ดลับ: หากคุณปิดแท็บโดยไม่ได้ตั้งใจ คุณสามารถกู้คืนได้โดยกด Ctrl + Shift + T บน Windows หรือ Linux หรือ ⌘ + Shift + T บน Mac

7.เรียกใช้ด้วยธีมเริ่มต้นดีกว่า

Google Chrome สามารถปรับแต่ง Theme ได้มากมาย รวมถึงเปลี่ยนธีมด้วย อย่างไรก็ตามธีมมักจะกินแรม ดังนั้นหากเราต้องการเบราว์เซอร์ที่รวดเร็วที่สุด ให้รันด้วยธีมเริ่มต้นจะดีกว่า

พิมพ์ chrome://settings และภายใต้ Appearance หากปุ่ม “รีเซ็ต” เป็นธีมเริ่มต้นไม่เป็นสีเทา แสดงว่ากำลังเรียกใช้ธีมที่กำหนดเอง คลิกปุ่มเพื่อกลับไปยังค่าเริ่มต้น

8.เลื่อนได้อย่างราบรื่น

พิมพ์ “chrome://flags” ลงในแถบที่อยู่และค้นหา “Enable fast tab/windows close” ตัวเลือกนี้ช่วยเร่งความเร็ว Chrome โดยอนุญาตให้ปิดหน้าต่างแยกจากโค้ด JavaScript ที่อาจกำลังทำงานอยู่

หลังจากที่คุณได้ทำการเปลี่ยนแปลงแล้ว ให้คลิกปุ่ม “RELAUNCH NOW”  ที่ด้านล่างของหน้าจอเพื่อใช้การตั้งค่า หากต้องการยกเลิกการเปลี่ยนแปลงใดๆ ให้คลิกปุ่มรีเซ็ตทั้งหมดเป็นค่าเริ่มต้น

9.ล้างแคชใน Chrome

หากพื้นที่ดิสก์เหลือน้อย คุณอาจพบว่า Chrome จะเร่งความเร็วขึ้นหากคุณล้างแคช

พิมพ์ “chrome://settings/clearBrowserData” ลงในแถบที่อยู่ **เราขอแนะนำให้เลือกเฉพาะตัวเลือกรูปภาพและไฟล์ที่แคชไว้** หรือคุณสามารถล้างทุกอย่างและเริ่มต้นใหม่ได้เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ให้ล้างรายการตั้งแต่เริ่มต้น

10.ตรวจสอบระบบเพื่อหาสปายแวร์และขยะอื่นๆ

ผู้ใช้ Windows สามารถใช้ Software Removal Tool ของ Google อาจเป็นความคิดที่ดีที่จะสแกนระบบโดยใช้บางอย่าง เช่น Anti-Malware ของ Malwarebyte

ผู้ใช้ Mac สามารถตรวจสอบ Anti-Malware สำหรับ Mac ของ Malwarebyte ได้ และอย่าเชื่อเรื่องไร้สาระที่ Mac ไม่จะไม่มีไวรัสหรือมัลแวร์มันอาจเป็นจริงเมื่อสิบปีก่อน แต่ในตอนนี้มันไม่เป็นแบบนั้นแล้ว ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยควรสแกนหาไวรัสดีที่สุด

ที่มา : https://www.zdnet.com