เพราะอะไรทั้ง ๆ ที่ติดเน็ตแบบไฮสปีดแต่เจอเน็ตวิ่งไม่เต็มสปีด เจอเน็ตช้า

หากใครเจอเหตุการณ์นี้ ทั้งๆที่เราใช้บริการอิเตอร์ที่มีความเร็วสูวทำไมเจอปัญหาบัฟเฟอร์ช้า? (ปัญหาความไม่เสถียรของเครือข่าย มีปัญหาเน็ตช้าเจอความเร็วลดลงในบางเวลา ) โดยในบทความจะอธิบายหลายสาเหตุ มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจขัดขวางการทำงานของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของเราไม่ให้ทำงานเต็มประสิทธิภาพ ปัจจัยเหล่านี้ได้แก่ สัญญาณอ่อน การตั้งค่าการจัดการเครือข่าย จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ และอื่นๆ มาดูสาเหตุที่อาจทำให้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของเรามีปัญหาการบัฟเฟอร์ในขณะนี้ อะไรทำให้เราที่มีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแต่บัฟเฟอร์ช้า สาเหตุอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแต่บัฟเฟอร์ช้าสามารถเกิดขึ้นได้หลายประการดังต่อไปนี้ : สัญญาณอ่อน คุณภาพของการตั้งค่าบริการ จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ การใช้แบนด์วิธสูง มีอุปกรณ์ที่ช้าและล้าสมัย การควบคุมปริมาณและแบนด์วิดธ์สูงสุด สัญญาณอ่อน เหตุผลที่สัญญาณอ่อนเป็นสาเหตุที่ทำให้อินเทอร์เน็ตบัฟเฟอร์ช้า เพราะเป็นผลมาจากกำแพงห้องในบ้านหรือที่ทำงานของคุณที่หนาไปทำให้เป็นการรบกวนการส่งสัญญาณจากไวไฟไร้สาย และอีกหนึ่งสาเหตุอีกอย่างคือระยะห่างของเร้าเตอร์กับ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของเราที่อยู่ไม่ในช่วงกระแสการเชื่อมต่อ เราจะต้องเจอเน็ตที่ช้าแม้ว่าเราจะใช้เน็ตความเร็วสูงก็ตาม คุณภาพของการตั้งค่าในเร้าเตอร์ Quality of Service หรือที่เรียกว่า QoS คือการตั้งค่าที่ฝังอยู่ในเราเตอร์บางตัว การตั้งค่านี้ช่วยให้เราจัดลำดับความสำคัญของอุปกรณ์เพื่อให้เราเตอร์สามารถให้เชื่อมต่อที่ดีที่สุดกับอุปกรณ์ที่มีลำดับความสำคัญได้ เมื่อเราปรับการตั้งค่านี้ให้ลำดับความสำคัญกับอุปกรณ์ที่เหมาะสม เราจะได้รับการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและดียิ่งขึ้น จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเร้าเตอร์ของเรา หากในบ้านหรือที่ทำงานของเรามีอุปกรณ์หลายเครื่องที่เชื่อมต่อกับเราเตอร์ เราจะเจอเน็ตที่ช้าลงแม้ว่าจะเชื่อมอินเตอร์ความเร็วสูงก็ตาม นั้นก็เพราะอุปกรณ์แต่ละเครื่อง มีการแย่งแบนด์วิดท์หรือแย่งการใช้อินเตอร์นั่นเอง แม้ว่าเราเตอร์จะพยายามแบ่งความเร็วที่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตอนุญาตให้เท่าๆกัน ระหว่างอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่ แต่อุปกรณ์ต้องการแบนด์วิดท์อาจใช้แบนด์วิดท์มากกว่าที่มี ดังนั้นคุณอาจพบการครอบคลุมเครือข่ายที่ดีเยี่ยมบนอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น สมาร์ทโฟน ในขณะที่อุปกรณ์ขนาดใหญ่ของคุณ เช่น คอมพิวเตอร์หรือเกมคอนโซล ประสบปัญหาการบัฟเฟอร์ ในทางกลับกัน การใช้แบนด์วิธสูง […]

สอนวิธีสำรองข้อมูล (Backup) บัญชี Gmail มีไว้อุ่นใจข้อมูลไม่หาย

มีสาเหตุที่เราอาจจะต้องสำรองข้อมูลบัญชีอีเมล ก็อย่างเช่น เปลี่ยนผู้ให้บริการอีเมลหรือต้องการสำรองข้อมูลอีเมลเพื่อความปลอดภัยกรณีมีการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งใน Gmail นั้นก็มีฟีเจอร์นี้ให้กับลูกค้าที่ใช้บริการอีเมล Google Takeout คือฟีเจอร์ที่ให้ตัวเลือกในการส่งออกและดาวน์โหลดข้อมูลผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Google รวมถึง Google Drive, Google Photos, Google Play และ Gmail ก็มีเหมือนกัน ข้อมูล Gmail สามารถส่งออกได้โดยใช้รูปแบบ “MBOX” หรือ “JSON” และgikสามารถระบุว่าจะส่งออกอีเมลทั้งหมดหรือเนื้อหาที่มีป้ายกำกับเฉพาะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา วิธีการสำรองข้อมูล (Backup) บัญชี Gmail ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google จากหน้า Gmail ให้คลิกที่ไอคอนโปรไฟล์แล้วเลือกตัวเลือกจัดการบัญชี Google ตามภาพ 3.จากนั้นเว็บจะวิ่งไปที่หน้า “แดชบอร์ดบัญชี Google” สำหรับจัดการการตั้งค่าผลิตภัณฑ์ต่างๆของ Google คลิกที่แท็บ”ข้อมูลและความเป็นส่วนตัว” เพื่อเปิดหน้าการส่งออกข้อมูล 4.เลื่อนลงไปหาส่วน “ข้อมูลจากแอพและบริการที่ใช้”และคลิกเลย 5. เลือกตัวเลือก “ดาวน์โหลดข้อมูล” 6.จากนั้นเว็บจะพามาหน้า Google Takeout […]

สอนวิธีบล็อกโดเมนที่น่ารำคาญชอบส่งข้อความมาเราบ่อยใน Gmail

หลายคนอาจจะเจอเหตุการณ์ที่มีอีเมล์หลายฉบับส่งมาจากที่อยู่ต่างกันแต่ทั้งหมดนั้นคือมาจากโดเมนเดียวกัน อย่างเช่นเมล์ spam ที่ไม่รู้มาจากไหน หรือ อีเมลโฆษณาที่เราก็จำไม่ได้ว่าเคยไปสมัครสมาชิกตอนไหน ดังนั้นในบทความนี้จะสอนวิธีวิธีบล็อกโดเมนที่น่ารำคาญชอบส่งข้อความมาเราบ่อยใน Gmail กันค่ะ โดยในบทความนี้ของเราอธิบายวิธีบล็อกโดเมน 2 วิธีด้วยกัน โดยปกติกหากต้องการบล็อก “ที่อยู่อีเมล”ใน Gmail นั้นเราสามารถสร้างตัวกรองที่จะลบข้อความเหล่านั้นโดยอัตโนมัติได้เลย ระบบจะย้ายอีเมลไปที่โฟลเดอร์ถังขยะโดยตรง แทนที่จะอยู่ในกล่องจดหมาย แต่การจะบล๊อกโดเมนทั้งหมด เช่น “@example.com” นั้นสามารถดำเนินการแบบเดียวกันได้ โดยขั้นตอนการบล๊อกนั้น มีสองวิธีในการทำ ซึ่งวิธีแรกจะเร็วกว่าวิธีที่สอง โดยวิธีที่สองให้เราบล็อกหลายโดเมนพร้อมกันเลยค่ะ วิธีที่ 1 : บล๊อกโดเมนจากสร้างตัวกรองในหน้าอีเมลเลย เริ่มแรกไปที่ Gmail ลงชื่อเข้าใช้ จากนั้นและเลือกอีเมลจากโดเมนที่เราต้องการบล็อก คลิกจุดสามจุดที่ด้านบนขวาของข้อความ แล้วเลือก “กรองข้อความแบบนี้” 3.จากนั้นเราจะเห็นหน้าต่างป๊อบอับสร้างตัวกรองเปิดขึ้น มองไปที่ ที่อยู่อีเมล ที่เติมโดยอัตโนมัติและลบทุกอย่างที่อยู่ทางด้านซ้ายของสัญลักษณ์ @ (at) และเลือก “สร้างตัวกรอง” 4.ในหน้าจอถัดมา ให้ติ๊กถูกที่ “ลบมัน” เราสามารถเลือกที่จะใช้ตัวกรองกับการสนทนาที่ตรงกันทั้งหมดได้ โดยเราจะเห็นจำนวนอีเมลอื่นๆ ในกล่องจดหมายของเราจากผู้ส่งที่เราต้องการจะบล๊อก ว่ามีกี่รายการ จากนั้นคลิก “สร้างตัวกรอง” เมื่อเราตั้งค่าตามนี้เสร็จแล้ว […]

สอนวิธีแสดงจำนวนอีเมล Gmail ที่ยังไม่ได้อ่านในไอคอน Favicon แท็บของเว็บเบราว์เซอร์

หากเราใช้ Gmail เป็นโปรแกรมรับ-ส่งอีเมลหลักแล้วละก็ ลองย้อนกลับไปดูที่กล่องขาเข้าของเราดูเพื่อตรวจสอบว่าได้เช็คอีเมลใหม่นั้นมันน่าเบื่อหรือไม่ ข่าวดีคือ ในGmail นี้มีฟีเจอร์ที่น่าใสใจโดยเข้าไปตั้งค่าให้สามารถแสดงจำนวนอีเมลที่ยังไม่ได้อ่านในแท็บเบราว์เซอร์ของเรา ซึ่งวิธีนี้จะแตกต่างเล็กน้อยวิธีดูของเก่าในแท็บเบราว์เซอร์ Gmail เมื่อเราอยู่ในหน้ากล่องจดหมาย การตั้งค่าแสดงจำนวนอีเมล Gmail ที่ยังไม่ได้อ่านแบบใหม่ดียังไง ก่อนที่จะมาตั้งค่าเราให้ดูว่าของเก่าแสดงผลอย่างไร ก่อนการตั้งค่า ในรูปภาพคือการแสดงจำนวนตัวเลขจำนวนอีเมล Gmail ที่ยังไม่ได้อ่าน แบบปกติที่เคยใช้งาน ตัวเลขนี้แสดงจำนวนอีเมลที่ยังไม่ได้อ่านในกล่องจดหมายของเรา แต่จะแสดงเฉพาะหมายเลขนั้นๆเมื่อเราอยู่ในกล่องขาเข้าจริงๆ หากคุณอยู่ในโฟลเดอร์หรือตำแหน่งอื่นของ Gmail จำนวนตัวเลขนั้นจะหายไป หลังการตั้งค่า Gmail เปิดใช้งานไอคอนข้อความที่ยังไม่ได้อ่านในส่วนหัวตลอดเวลา ซึ่งทำงานไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใดเปิดโฟลเดอร์ไหนในเว็บไซต์ Gmail 3.คลิกที่แท็บ “ขั้นสูง” 4.เลื่อนลงไปข้างล่าง มองหาที่ตัวเลือก “ไอคอนข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน” คลิก “เปิดใช้งาน” จากนั้นเลือก “บันทึกการเปลี่ยนแปลง” จากนั้น Gmail จะรีเฟรช และไอคอนอีเมลในแท็บ Gmail จะแสดงจำนวนข้อความที่ยังไม่ได้อ่านเสมอ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ส่วนใหนใน Gmail หากต้องการปิดฟีเจอร์นี้ ให้กลับไปที่การตั้งค่า > ขั้นสูง และปิดใช้งานตัวเลือก “ไอคอนข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน” ได้เลยค่ะ จะเห็นได้ว่าแม้เราจะไปหน้าอีเมล์ที่ส่งแล้ว […]

สอนสร้าง Email Template ใน G-mail เรียกใช้งานได้เลยง่ายมาก

หากใครที่เป็นแอดมินต้องคอยตอบจดหมายธุรกิจบ่อยๆ โดยบ้างครั้งอีเมลดังกล่าวอาจจะเป็นข้อความซ้ำๆเดิมๆ เช่นตอบคำถามลูกค้า ประกาศต่างๆหรือตอบกับอีเมลเจ้านาย ในบทความนี้จะสอนวิธีสร้าง Email Template ใน g-mail สำหรับทำอีเมลข้อความตอบกลับ เพื่อนำใช้คำตอบสำเร็จรูป มาใช้ซ้ำไม่ต้องสร้างใหม่เลยค่ะ ทำตามได้ง่ายไม่ยุ่งยากเลย ก่อนสร้าง Email Template ให้ทำการเปิดใช้งาน Email Template ก่อน ใครที่ไม่เคยเปิดการใช้งานเลย Email Template เริ่มแรกเราต้องการเปิดใช้งาน Email Template เสียก่อน โดยการ Login เข้าสู่ระบบ g-mail ของคุณ จากนั้น มองหาแถบเครื่องมือที่อยูทางด้านขวามือ ไปที่ฟันเฟืองตามภาพ เมื่อคลิกเลือกแล้วระบบจะแสดงดรอปดาวเมนูใหม่ จากนั้นให้คลิก “ดูการตั้งค่าทั้งหมด” จากนั้นเว็บจะเปิดส่วนใหม่ของ g-mail แสดงเป็นหน้า “การตั้งค่า” ทั้งหมด ให้คุณทำตามขั้นตอนการตั้งค่าดังนี้ คลิกที่แทบ “ขั้นสูง” มองหาคำว่า “เทมเพลต” ตามภาพ จากนั้นติ้กเลือก “เปิดใช้” กด “บันทึกการเปลี่ยนแปลง” วิธีสร้าง Email Template […]

3 ฟีเจอร์ของ Gmail เพิ่มเติมที่คุณควรลองเป็นอย่างมาก

Gmail เป็นบริการอีเมลฟรีของ Google เป็นที่นิยมมากสามารถใช้งานได้ทั้ง Desktop และใน Mobile มาพร้อมกับพื้นที่ฟรี ขนาด 15 GB  ทั้งนี้หลายคนอาจจะใช้ Gmail เพียงเปิดอ่านอีเมลหรือรับส่งอีเมลเท่านั้น ซึ่งตรงนี้เองคุณอาจจะพลาดฟีเจอร์ดีๆที่พลาดไป หรือคุณใช้งานประจำอาจจะหลงลืมฟีเจอรเหล่านี้ไป โดยฟีเจอร์เหล่านี้นั้นไม่ใช่ของใหม่เลย หากคุณมาอ่านบทความนี้แล้วนั้นจะทำให้คุณใช้งานได้อย่างไวขึ้น อ่านเพิ่มเติม : 3 ฟีเจอร์เด็ดของ Gmail ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักที่คุณควรลอง เรียกคืนอีเมลด้วยการ “Undo Send” ขณะที่เราร่างเนื้ออีเมล์เรียบร้อยพร้อมที่จะส่งอีเมล์ไปยังปลายทางแล้ว พอเรากดส่งไปเราดันลืมไปว่าอาจจะลืมแนบไฟล์ หรือวันที่วันสำคัญในการนัดแนะ หรือจะเป็นลืม CC หาผู้รับอีกคนหนึ่ง ในฟีเจอร์ของ Gmail นี้นั้นมีฟังก์ชั่น “Undo Send” ให้ใช้งานอยู่ โดยเราสามารถเรียกคืนอีเมลนั้นได้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะส่งถึงกล่องจดหมายของผู้รับ วิธีคือให้สังเกตุ เมื่อตอนที่เรากดส่งข้อความ เราจะเห็นตัวเลือก “Undo Send” ที่ด้านล่างของ Gmail คลิก “Undo Send” และข้อความของเราจะหยุดส่งไปยังปลายทาง จากนั้น g-mail จะเปิดขึ้นอีกครั้งเพื่อให้gikแก้ไขได้ตามต้องการ โดยฟีเจอร์นี้ตามค่าเริ่มต้น คือให้เวลาห้าวินาทีในการกดปุ่ม […]

3 ฟีเจอร์เด็ดของ Gmail ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักที่คุณควรลอง

Gmail ถือได้ว่าเป็น ผู้ให้บริการอีเมลยอดฮิต ที่ใครหลายๆต้องรู้จักอย่างแน่นอน แต่หลายอาจจะไม่รู้ว่ามีทริคมากมายที่สามารถทำให้เราใช้งานอีเมล์ในอยากสะดวกสะบายและเต็มประสิทธิ์ภาพ ในบทความที่แล้วเราได้แนะนำ 3 ฟีเจอร์ของ Gmail ที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้ ไปแล้ว ดังนั้นเรามาแนะนำ 3 ฟีเจอร์เด็ดของ Gmail เพิ่มเติมในบทความนี้ค่ะ แสดงจำนวนอีเมลที่ยังไม่ได้อ่านในไอคอนที่แท็บเบราว์เซอร์ แทนที่เราจะดูจำนวนอีเมลที่ยังไม่ได้อ่านที่กล่องจดหมายหรือจัดการกับการแจ้งเตือนบนเดสก์ท็อป เราสามารถแสดงจำนวนที่ยังไม่ได้อ่านใน Gmail ของจากแท็บเบราว์เซอร์ได้ โดยทริกนี้แตกต่างจากเดิมเล็กน้อยจากที่เราเห็นในปัจจุบัน ที่แสดงจำนวนที่ยังไม่ได้อ่านในโฟลเดอร์ใดก็ตามที่เรากำลังดูอยู่หรือจะเป็นกล่องจดหมายก็ได้ เมื่อเราทำการตั้งค่าเพิ่มเติมนี้แล้ว เราจะเห็นจำนวนอีเมลที่ยังไม่ได้อ่านที่ไอคอนGmail ในแท็บของเบราว์เซอร์ (ในทางเทคนิคเรียกว่า Fav ไอคอน) ไม่ว่าจะมองที่ใดใน g-mail ก็จะเห็นตามตัวอย่างแบบภาพหน้าจอด้านล่าง ว่าจะแสดงจำนวนอีเมลที่ไม่ได้อ่านมีมากกว่า 100 ฉบับ ใช้จัดการอีเมลเพิ่มเติมด้วยกล่องจดหมายหลายกล่อง ใครหลายคนที่ใช้ระบบจัดการอีเมล์ด้วย Gmail ซึ่งแต่ละคนจะมีการจัดเรียงอีเมลต่างกัน อาจจะเพิ่มหมวดหมู่ที่สร้างด้วย label ของ Gmail แต่จริงๆแล้ว Gmail มีฟีเจอร์ยอดเยี่ยมมากว่านั้น นั่นคือ แบ่งกล่องจดหมายได้เลยกล่อง ด้วยมุมมองนี้ เราสามารถดูได้ถึงห้าส่วนถัดจากกล่องจดหมายหลักเลยได้ทีเดียว วิธีเรียกใช้งานกล่องจดหมายหลายกล่อง หากต้องการเปิดฟีเจอร์นี้ ให้คลิกไอคอนรูปเฟืองที่ด้านบนขวา จากนั้นเลื่อนแถบด้านข้างลงมาที่ “ประเภทกล่องขาเข้า”และทำเครื่องหมายหลายกล่องขาเข้า […]

สอนวิธีปิดการแจ้งเตือนเว็บไซต์ที่น่ารำคาญในเว็บบราวเซอร์

ในการเข้าชมเยี่ยมเว็บไซต์ต่างๆผ่านทางเว็บบราวเซอร์ ในบางครั้งจะมีป๊อบอัพแจ้งเตือนขึ้นมาให้กดอนุญาต ขอเข้าสิทธิ์ต่างๆ หรือป๊อบอัพโฆษณา ซึ่งบางครั้งก็ดูน่ารำคาญ ในบทความนี้จะสอนวิธีปิดป๊อบอัพที่น่ารำคาญในเว็บบราวเซอร์ Chrome, Firefox และ Safari นี้ค่ะ วิธีปิด Notifications ใน chrome คลิกไอคอนเมนูสามจุดที่มุมบนขวาของเบราว์เซอร์แล้วเลือก“Settings (การตั้งค่า)” จากนั้นเลื่อนลงไปที่ด้านล่างของหน้าจอคลิก “ Advanced (ขั้นสูง)” จากนั้นคลิกตัวเลือก “ Site Settings (การตั้งค่าไซต์)” ที่อยู่ใต้หัวข้อ“ Privacy and security (ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย)” คลิกสลับที่อยู่ถัดจาก“ Ask before sending (recommended) (ถามก่อนส่ง (แนะนำ))” ซึ่งจะทำให้การสลับเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีเทาและข้อความเปลี่ยนเป็น “Blocked (ถูกบล็อค)” หากต้องการให้เว็บไซต์บางเว็บแจ้งเตือน เช่น Twitter หรือ Gmail คุณสามารถเพิ่มไซต์เหล่านั้นเป็นข้อยกเว้นในหน้าการตั้งค่า ของ Chrome วิธีตั้งทำดังนี้ : คลิกที่ปุ่ม  “Add (เพิ่ม)” จากนั้นกรอก […]

สอนเปลี่ยนและสร้างรูปแบบตัวเลขแบบกำหนดเองใน Google sheet

วิธีเปลี่ยนรูปแบบตัวเลขใน Google ชีต ขั้นตอนที่ 1 เราจะแนะนำคุณผ่านคู่มือนี้โดยใช้ตัวอย่าง สมมติว่าคุณกำลังสร้างแผ่นพื้นที่โฆษณาสำหรับการขายเฉพาะ คุณอาจมีรายการสินค้าปริมาณอัตราและต้นทุนทั้งหมดในคอลัมน์ของตนเอง นี่คือตารางที่เราจะร่วมงานด้วย ขั้นตอนที่ 2 อย่างที่คุณเห็นตัวเลขไม่ชัดเจนโดยง่าย ไม่มีเครื่องหมายจุลภาคหรือจุดทศนิยมทำให้เป็นการยากที่จะอ่านตัวเลขที่มีขนาดใหญ่ขึ้น (ตัวเลขหนึ่งล้านจะยากกว่านี้) คุณสามารถเปลี่ยนการจัดรูปแบบตัวเลขโดยใช้เมนูรูปแบบ ก่อนอื่นให้เลือกช่วงของเซลล์ที่คุณต้องการจัดรูปแบบ ขั้นตอนที่ 3 จากนั้นไปที่รูปแบบ> หมายเลข ที่นี่คุณจะเห็นรูปแบบต่างๆเช่นตัวเลขร้อยละวิทยาศาสตร์การบัญชีการเงินสกุลเงินและการปัดเศษสกุลเงิน ขั้นตอนที่ 4 รูปแบบตัวเลขเป็นตัวเลือกที่ง่ายที่สุด นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกตัวเลือกทางการเงินหรือสกุลเงินหากคุณต้องการเพิ่มสัญลักษณ์สกุลเงินลงในหมายเลข หากคุณต้องการลบการจัดรูปแบบทั้งหมดคุณสามารถเลือกตัวเลือก “ข้อความธรรมดา” เมื่อคุณเลือกรูปแบบตัวเลขใหม่เซลล์ที่เลือกในชีตจะได้รับการอัปเดตทันที วิธีสร้างรูปแบบตัวเลขแบบกำหนดเองใน Google Sheet แม้ว่าจะดีมากที่ Google ชีตมีตัวเลือกการจัดรูปแบบตัวเลขสองสามแบบ แต่ก็มีข้อ จำกัด ค่อนข้างมาก ตัวอย่างเช่นถ้าคุณต้องการแสดงตัวเลขด้วยเครื่องหมายจุลภาคและเครื่องหมายดอลลาร์ แต่ไม่รวมจุดทศนิยม ขั้นตอนที่ 1 คุณสามารถสร้างรูปแบบตัวเลขที่กำหนดเองได้อย่างง่ายดาย (สามารถใช้ได้กับรูปแบบวันที่และเวลา) เริ่มต้นด้วยการเลือกเซลล์ที่คุณต้องการจัดรูปแบบ ขั้นตอนที่ 2 แม้ว่าจะดีมากที่ Google ชีตมีตัวเลือกการจัดรูปแบบตัวเลขสองสามแบบ แต่ก็มีข้อ จำกัด ค่อนข้างมาก ตัวอย่างเช่นถ้าคุณต้องการแสดงตัวเลขด้วยเครื่องหมายจุลภาคและเครื่องหมายดอลลาร์ แต่ไม่รวมจุดทศนิยม คุณสามารถสร้างรูปแบบตัวเลขที่กำหนดเองได้อย่างง่ายดาย […]

สอนวิธีตั้งค่าให้ Taskbar ใน Windows 10 เป็นแนวตั้ง

โดยปกติแถบงานของ Windows 10 จะเหยียดที่ด้านล่างของหน้าจอ แต่คุณสามารถเลื่อนไปทางซ้ายหรือขวาของหน้าจอในแนวตั้ง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการแสดงผลแบบจอกว้างทำให้แอปพลิเคชันของคุณมีอสังหาริมทรัพย์ในแนวตั้งมากขึ้น ขั้นตอนที่ 1 ก่อนอื่นให้คลิกขวาบนทาสก์บาร์และค้นหาตัวเลือกที่เรียกว่า “ล็อคทาสก์บาร์” ในรายการ หากตัวเลือกนั้นมีเครื่องหมายถูกอยู่ด้านข้างให้คลิกที่เครื่องหมายนั้น วิธีนี้จะปลดล็อคแถบงานเพื่อให้คุณสามารถย้ายได้ ขั้นตอนที่ 2 เมื่อทาสก์บาร์ของคุณปลดล็อคคุณสามารถย้ายได้อย่างอิสระ คลิกที่แถบงานและลากเคอร์เซอร์ของเมาส์ไปที่ขอบซ้ายหรือขวาของหน้าจอ (คุณสามารถลากไปไว้ที่ด้านบนของหน้าจอหากคุณต้องการทาสก์บาร์แนวนอนที่นั่น) ขั้นตอนที่ 3 เมื่อเคอร์เซอร์อยู่ใกล้กับขอบมากเท่าที่ทาสก์บาร์จะสแนปในตำแหน่งแนวตั้ง ในขณะที่ทาสก์บาร์ปลดล็อคคุณยังสามารถคลิกที่จับที่ขอบแล้วลากเพื่อขยายหรือลดขนาดทาสก์บาร์ ในแนวตั้งมันจะกว้างขึ้นหรือแคบลง หากคุณต้องการให้คลิกขวาที่ทาสก์บาร์อีกครั้งแล้วเลือก“ ล็อคแถบงาน” เพื่อให้มีเครื่องหมายถูกอยู่ด้านข้าง สิ่งนี้จะทำให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ย้ายแถบงานโดยไม่ได้ตั้งใจ ตอนนี้คุณสามารถใช้แถบงานได้ตามปกติ หากคุณต้องการย้ายกลับมาตรวจสอบให้แน่ใจว่าทาสก์บาร์นั้นถูกปลดล็อคจากนั้นลากทาสก์บาร์กลับไปยังตำแหน่งที่คุณต้องการ คุณสามารถลากไปไว้ด้านบนของหน้าจอได้หากต้องการ เมื่อชำระแล้วคุณสามารถสำรวจวิธีอื่นในการปรับแต่งแถบงานใน Windows 10 เช่นการปักหมุดแอปไว้หรือลบช่องค้นหา Cortana ที่มา : howtogeek.com